06 May
06May

 การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ชนิดน้ำกรด (Flooded Battery) ให้ใช้งานได้นานและมีประสิทธิภาพสูงสุดนั้นจำเป็นต้องทำการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี ดังนี้:

1. ตรวจสอบระดับน้ำกลั่น

  • แบตเตอรี่ชนิดน้ำกรดมักจะมีน้ำกลั่นอยู่ภายในเซลล์แบตเตอรี่ (เซลล์แต่ละอันจะมีฝาปิดที่สามารถเปิดเพื่อเติมน้ำกลั่นได้) หากน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ลดลงมากเกินไปจะทำให้แผ่นธาตุภายในแบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น
  • ควรเติมน้ำกลั่นเมื่อระดับน้ำลดลง แต่ไม่ควรเติมเกินขีดที่กำหนด (บางแบตเตอรี่จะมีขีดบอกระดับน้ำ)

2. ตรวจเช็คการเชื่อมต่อขั้วแบตเตอรี่

  • ขั้วแบตเตอรี่ควรจะสะอาดและปราศจากการกัดกร่อน (เช่น คราบเกลือจากกรด) หากพบการกัดกร่อน ควรทำการทำความสะอาดด้วยแปรงขนแข็งหรือผ้าแห้ง
  • การเชื่อมต่อขั้วแบตเตอรี่ต้องไม่หลวม เพราะอาจทำให้การทำงานของระบบไฟฟ้าภายในรถไม่เสถียร

3. หลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่หมด

  • การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจนถึงจุดที่ไม่สามารถสตาร์ทรถได้อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ควรให้ความสำคัญในการใช้งานและปิดไฟในรถยนต์ให้เรียบร้อยหลังจากใช้งานเสร็จ
  • หากไม่ใช้รถนานๆ ควรมีสตาร์ทรถยนต์ ขับบางรถเพื่อให้แบตเตอรี่ได้ชาร์จไฟ

4. หลีกเลี่ยงการเติมน้ำกลั่นมากเกินไป

  • การเติมน้ำกลั่นมากเกินไปอาจทำให้สารเคมีภายในแบตเตอรี่เจือจาง และทำให้ความจุและกำลังสตาร์ทของแบตเตอรี่ลดลง

5. ตรวจเช็คการชาร์จแบตเตอรี่

  • ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบการชาร์จของรถยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดการชาร์จเกิน (overcharge) ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนเกินไป

6. ตรวจสอบสภาพภายนอกของแบตเตอรี่

  • ดูว่าแบตเตอรี่ไม่มีรอยแตกหักหรือการบวมขึ้น ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนทันทีหากพบสัญญาณเหล่านี้

 

 การดูแลแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานรถได้อย่างไม่มีปัญหา และช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความคิดเห็น
* อีเมลจะไม่ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์